ความเงียบสงัดยังคงปกคลุมผืนป่า แวนเดอร์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เคยเป็นที่ซ่อนตัวของ Devil ความรู้สึกสับสนและความกังวลยังคงเกาะกินใจเขาไม่หาย ภาพแสงสว่างในตัวของ Devil ยังคงติดตาเขาไม่จางหาย
“มันคืออะไรกันนะ?” แวนเดอร์พึมพำกับตัวเอง “แสงสว่างนั้นมันหมายความว่าอะไร?”
แวนเดอร์ตัดสินใจสำรวจบริเวณรอบๆต้นไม้อีกครั้งอย่างละเอียด เขาค่อยๆเดินวนรอบต้นไม้ มองหาสิ่งผิดปกติใดๆที่ Devil อาจทิ้งเอาไว้ ทันใดนั้น สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นวัตถุบางอย่างที่พื้นดิน มันเป็นวัตถุทรงกลม ทำจากโลหะสีเงิน มีสัญลักษณ์แปลกตาสลักอยู่บนผิว แวนเดอร์ค่อยๆ ก้มลงหยิบมันขึ้นมาสำรวจ
“นี่มันอะไรกัน?” แวนเดอร์พลิกวัตถุไปมาในมือ “มันดูคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”
แวนเดอร์พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เขาตัดสินใจเก็บวัตถุนั้นใส่กระเป๋า แล้วออกเดินทางต่อ เขาหวังว่าจะได้พบกับใครสักคนที่สามารถไขปริศนาของวัตถุนี้ได้ ขณะที่เดินไปเรื่อยๆ แวนเดอร์ก็ได้ยินเสียงเพลงเบาๆ ลอยมาตามลม เขาหันไปมองตามเสียงเพลง และพบกับลูน่า แมวสาวนักดนตรีที่เขารู้จักในโลกแห่งความเบื่อหน่าย
“ลูน่า!” แวนเดอร์ร้องเรียกด้วยความดีใจ
ลูน่าหันมาหาแวนเดอร์ รอยยิ้มประดับบนใบหน้าของเธอ “แวนเดอร์! เธอกลับมาแล้วเหรอ?” แวนเดอร์เล่าเรื่องราวที่เขาพบเจอให้ลูน่าฟัง รวมถึงวัตถุประหลาดที่เขาเก็บมาได้ ลูน่าขมวดคิ้วเมื่อเห็นวัตถุนั้น
“ฉันเคยเห็นสัญลักษณ์นี้มาก่อน” ลูน่าพูด “มันเป็นสัญลักษณ์ของมิติแห่งความเบื่อ”
“มิติแห่งความน่าเบื่อ?” แวนเดอร์ทวนคำด้วยความสงสัย “ใช่” ลูน่าพยักหน้า “มันเป็นมิติที่เต็มไปด้วยความเบื่อแบบต่างๆ บางทีเราอาจจะไปที่นั่นเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับแสงสว่างในตัวของ Devil ก็ได้”
แวนเดอร์รู้สึกตื่นเต้น เขาไม่รอช้า รีบคว้าเข็มทิศนำทางมิติออกมา และตั้งค่าปลายทางไปยังมิติแห่งความน่าเบื่อ