แวนเดอร์ยืนตัวแข็งทื่อเบื้องหน้าต้นไม้ปีศาจ ดวงตาสีแดงก่ำในโพรงไม้ราวกับจะเผาไหม้ทุกสิ่งที่มันมองเห็น เสียงแหบพร่าของ Devil ดังก้องไปทั่วบริเวณ “เจ้าคิดว่าเจ้าจะหยุดข้าได้งั้นเหรอ? เจ้ากิ้งก่าตัวกระจ้อย!” เงาดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากโพรงไม้ ปกคลุมทั่วทั้งผืนป่า แสงสว่างริบหรี่ที่เคยมีเลือนหายไปในพริบตา เหลือเพียงความมืดมิดที่ดูดกลืนทุกสิ่ง แวนเดอร์รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านเข้ามา ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ แต่เขาก็ยังคงยืนหยัด ไม่ยอมถอยหนี
“ข้าจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย!” เสียงของ Devil ดังขึ้นอีกครั้ง “ไม่มีใครจะหยุดข้าได้!”
แวนเดอร์กัดฟันแน่น เขาจะไม่ยอมให้ Devil ทำลายโลกใบนี้ เขาคว้ากล้องส่องทางไกลคู่ใจขึ้นมา ส่องไปยังต้นไม้ปีศาจ หวังว่าจะมองเห็น Devil ได้ชัดขึ้น และแล้วภาพที่เขาเห็นก็ทำให้เขาตกตะลึง กลางอกของ Devil มีแสงสว่างเรืองรอง! แสงนั้นส่องประกายเจิดจ้าตัดกับความมืดมิดรอบตัว ราวกับเป็นความหวังเดียวที่หลงเหลืออยู่ในโลกที่สิ้นหวังใบนี้ แต่ก่อนที่แวนเดอร์จะทันได้คิดอะไร Devil ก็หายวับไปพร้อมกับเงาดำที่ปกคลุมผืนป่า แต่ถึงแม้ Devil จะหายไป ความมืดมิดและความเงียบเหงาก็ยังคงปกคลุมผืนป่าต่อไป ราวกับว่าพลังของ Devil ยังคงหลงเหลืออยู่
แวนเดอร์รู้สึกสับสนและหมดหวัง เขาจะทำอย่างไรต่อไป? โลกใบนี้จะต้องจมอยู่กับความเบื่อหน่ายตลอดไปหรือไม่? แต่แล้วเขาก็นึกถึงแสงสว่างที่เขาเห็นในตัวของ Devil แสงนั้นคืออะไร? และมันมีความสำคัญอย่างไร? แวนเดอร์ตัดสินใจที่จะไม่ยอมแพ้ เขาจะต้องหาคำตอบให้ได้ เขาจะต้องหาทางนำความสุขและความสดใสกลับคืนมาสู่โลกใบนี้ให้ได้!